• ช.พ.ค.ปล่อยกู้เฟสใหม่ วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท

 

ครู เฮ! ช.พ.ค.7 ขยายเพดานเงินกู้จาก 1.2 ล้านบาทให้สูงสุดถึง 3 ล้านบาท ด้าน”วรวัจน์” มึนสวนนโยบาย “ลดหนี้ครู” ขณะที่ สกสค.ประสานสถาบันการเงินวิเคราะห์เงื่อนไขการกู้ หวั่นวงเงินสูงเกินอาจเป็นปัญหาในอนาคต

วันที่ 9 ก.ย.54 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการ ศึกษา (สกสค.) ได้เปิดให้สมาชิกกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) กู้เงินในโครงการใหม่ต่อจากโครงการ ช.พ.ค.6 ที่เคยเปิดให้กู้ในวงเงินสูงสุด 1.2 ล้านบาท โดยโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.ใหม่ดังกล่าวให้กู้เงินได้สูงสุดถึง 3 ล้านบาท

โดยมีหลักเกณฑ์ ดังนี้ อายุไม่เกิน 65 ปี ต้องมีอายุการเป็นสมาชิก 1 ปีขึ้นไป ต้องทําประกันสินเชื่อ โดย 3 ล้านบาทต้องประกัน 164,700 บาท จํานวนผู้ค้ำประกัน 3 ล้านบาท ใช้ 3 คนค้ำประกัน ถ้าไม่ประสงค์ทําประกันสินเชื่อ ต้องหาผู้ค้ำประกันเพิ่มเป็นผู้ค้ำ 8 คน นอกจากนี้ผู้ที่มีอายุไม่เกิน 74 ปี สามารถกู้ได้ แต่หากอายุเกิน 75 ปี กู้ได้แต่ต้องมีหนี้ค้างชําระทั้งหมดรวมกันแล้ว ไม่เกินจํานวนเงินสงเคราะห์ครอบครัวที่จะได้รับ ระยะเวลากู้ 25 ปี และธนาคารให้ปล่อยเงิน 3 ล้านบาท ได้ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.54 รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ สำนักงาน สกสค.จังหวัด ที่สังกัด

ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ และจะให้ สกสค.ได้ชี้แจงมาที่ตน รวมทั้งการชี้แจงข้อมูลปัญหาหนี้สินครูต่างๆ ที่ได้มอบให้สกสค.ไปดำเนินการ แต่ในขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับคำชี้แจงมาเลย อย่างไรก็ตาม สำหรับการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูนั้น คงต้องใช้ระยะเวลาที่จะลงไปดำเนินการและต้องดูว่ามีหนี้สินจำนวนเท่าไร เกิดจากสาเหตุใด มีภาระดอกเบี้ยมากน้อยแค่ไหนและจะหาวิธีลดดอกเบี้ยได้อย่างไร

นายวัฒนา วรรณโสภา รองเลขาธิการ สกสค. กล่าวว่า สกสค.กำลังดูในรายละเอียดว่าหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการปล่อยกู้ใน โครงการ ช.พ.ค.ล่าสุดที่ให้กู้ในวงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท จะเป็นปัญหาในอนาคตหรือไม่สำหรับผู้กู้ รวมทั้งจะทำให้เกิดหนี้สินเพิ่มขึ้นหรือไม่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานกับสถาบันการเงิน ซึ่งเร็วๆ นี้ จะปล่อยให้สมาชิก ช.พ.ค.กู้ได้ อย่างไรก็ตาม กรณีที่นายวรวัจน์ ยังไม่ทราบเรื่องนี้นั้น เมื่อสำนักงาน สกสค.ได้รายละเอียดทั้งหมดแล้วจะชี้แจงนายวรวัจน์ ต่อไป

 

 

 

ที่มา สยามรัฐ

ใส่ความเห็น

Filed under ข่าวสาร

ใส่ความเห็น